เรื่องราวของการสู้ชีวิต ของหลายๆชีวิตที่แตกต่างกัน ปัญหาที่แต่ละครอบครัวต้องเผชิญ หนทางแห่งการเอาตัวรอดจากปัญหาหลายอย่าง และทางเลือกในการเลือกเพื่อให้ตนเองและครอบครัวอยู่รอด เป็นหนังเกาหลีที่ให้แง่คิดและสะท้อนความเป็นจริงในสังคม ได้ดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
Table of Contents
หนังตัวอย่าง
รีวิวหนัง
สปอยหนัง
สรุป
หนังตัวอย่าง
ครอบครัวๆ หนึ่ง แม่ (Ko Du Shim จากซีรีส์ When the Camellia Blooms) ที่มีลูกชายสามคน พัคซังฮุน (Park Ho San จากซีรีส์ Prison Playbook) พี่ชายคนโตที่ตกงานหนี้สินรุงรัง พัคกีฮุน (Song Sae Byeok) น้องชายคนสุดท้องที่มุ่งหมายจะเป็นผู้กำกับหนังแต่ไม่รุ่งในทางนี้สักที
ทำให้พัคดงฮุน (Lee Sun Kyun จากหนัง Parasite, A Hard Day และซีรีส์ Coffee Prince) กลายเป็นคนกลางที่ต้องแบกความคาดหวังของครอบครัว เขาทำงานเป็นวิศวกรโครงสร้างในบริษัทยักษ์ใหญ่ กลายเป็นคนเดียวในละแวกที่มีหน้าที่การงานที่ดี ถูกพี่ชายบอกให้กอดกุมงานนี้เอาไว้ให้มั่น เขากลายเป็นคนที่หาได้ก็ต้องมาช่วยเลี้ยงครอบครัว
เขามีตำแหน่งเป็นเพียงหัวหน้าฝ่าย หลังถูกประธานโดจุนยอง (Kim Young Min คนที่เล่นเป็นจองมันบก ใน Crash Landing on You) รุ่นน้องมหาวิทยาลัยเดียวกันถีบลงมาในขณะที่ตัวเองได้เป็นผู้จัดการ ไม่พอ เพื่อนรุ่นน้องคนนี้ก็ยังคบชู้กับภรรยาของเขาอีกด้วย เขาเป็นหัวหน้าที่ใจดีลูกน้องรัก แต่ถูกกลั่นแกล้งและจำเป็นต้องเกาะหน้าที่การงานไว้เพื่อครอบครัว
เธอมีชีวิตที่ยากลำบาก เมื่อแม่ผู้จากไปทิ้งหนี้และภาระก้อนใหญ่ไว้ให้ เธอต้องดูแลย่าที่ป่วยหนักเคลื่อนไหวแทบไม่ได้หูไม่ได้ยิน ทั้งยังมีภาระหนี้สินก้อนโตจากการกู้หนี้นอกระบบ ด้วยความที่เรียนมาไม่สูงจึงต้องทำหลายงาน กลางวันเป็นลูกจ้างชั่วคราวคัดแยกจดหมายในบริษัทเดียวกันกับดงฮุน กลางคืนทำงานล้างจานในร้านอาหาร
แต่ด้วยความด้อยโอกาสและปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เล็ก เธอมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดในทางร้ายๆ เธอใช้มันเป็นเครื่องมือหาเงินใช้หนี้ และหลายครั้งเธอก็ใช้มันทำร้ายคนดีๆ อย่างพัคดงฮุน
สปอยหนัง
ดูไปเรื่อยๆ ยิ่งรู้สึกว่านี่มันซีรีส์รวบรวมเหล่าคนที่สังคมมองว่าเป็นพวกขี้แพ้ (หรือลูสเซอร์นั่นแหละ) นี่หว่า พระเอกนั้นถึงแม้จะมีหน้าที่การงานในบริษัทใหญ่แต่ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดี ทั้งพี่น้องก็ตกงานจนเขาเสียศูนย์
นางเอกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นแต่กลับมีชีวิตที่ยากลำบาก หนี้สินล้นตัว ต้องเลี้ยงดูย่าที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทั้งยังมีผู้คนมีมากมายในละแวกนั้นที่ไม่ได้มีชีวิตดีๆ เหมือนพวกเขาจะไม่ได้เดือดร้อนอะไรนัก ยังมานั่งกินเหล้าเฮฮากันในร้านเหล้าเจ้าประจำ
สามพี่น้อง กับ คนด้อยโอกาส พี่น้องทั้งสามของแม่ที่มักจะพบเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน พี่คนโตที่ตกงาน มีหนี้สิน เมียเอือมระอา ส่วนน้องคนเล็กก็ล้มเหลวในชีวิตการเป็นผู้กำกับ เป็นคนรักพี่น้องแต่มุทะลุ ชีวิตหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวเพราะชีวิตไร้คนข้างกาย
ขณะที่คนกลางอย่างดงฮุน มีหน้าที่การงานดี แต่ต้องเกาะงานนี้เอาไว้ไม่ให้หลุด แม้จะโดนรุ่นน้องมหาวิทยาลัยเขี่ยให้ตกลงไปเป็นแค่หัวหน้างาน เมียก็มีชู้โดยที่เขาไม่รู้ตัว แม้จะมีครอบครัวของตัวเองแล้วก็ยังคงวนเวียนช่วยเหลือเจือจุนพี่น้องของตนอยู่ไม่ห่าง บุคลิกของเขาเป็นคนที่พูดน้อย ทำให้รู้สึกว่าเขาคงคิดอะไรอยู่ในใจมากโขอยู่
เขาได้มาเจอกับเด็กสาววัย 21 ที่มีชีวิตย่ำแย่ ยากจนไม่พอ ยังมีหนี้สินที่แม่ทิ้งไว้ให้ ต้องเลี้ยงดูย่าทั้งที่จ่ายเงินไม่ไหว สุดท้ายก็ติดหนี้สินจากพวกมาเฟียปล่อยเงินกู้นอกระบบ ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อหาเงิน แต่ความปากกัดตีนถีบมาแต่เด็กอาจเป็นส่วนที่ผลักดันให้เธอกลายเป็นคนร้ายๆ ที่เฉลียวฉลาด
สรุป
มันเป็นซีรีส์ที่ให้อีกอารมณ์หนึ่ง แตกต่างจากหลายๆ เรื่องที่ดูมาเลยนะครับ มันให้ความรู้สึกจริงจังและหนักอึ้ง เรื่องราวของหลายๆ ตัวละครที่เจอเรื่องหนักๆ ในชีวิต หาทางออกไปไม่ได้ จำต้องดิ้นรนไปตามสถานการณ์ การดำเนินเรื่องของซีรีส์เองก็มักจะเน้นความเงียบ ช่วงเวลาของการพูดคุยแทบไม่มีดนตรีมาประกอบ แต่ดนตรีพวกนั้นจะกลับมาโดดเด่นและทำงานในช่วงที่ไร้ถ้อยคำใดๆ